ธรรมโอสถของปู่บุญมา

Moderator: ดอยเวียงเกี๋ยงวนา

ธรรมโอสถของปู่บุญมา

โพสต์โดย ผู้ดูแลบอร์ด » ศุกร์ 09 เม.ย. 2010 4:34 am

เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙ ช่วงเดือนเมษายน ตอนนั้นยังไม่ได้บวช มีอยู่วันหนึ่งรู้สึกว่าตนเอง
ไม่สบายร่างกายไม่ปกติ รู้สึกเวียนศีรษะหนักตัว จิตใจไม่ค่อยสบาย ก็เลยไปหาหมอที่คลีนิค
เลิงนกทา หมอตรวจดูแล้วบอกว่าเป็นเบาหวาน และมีความดันโลหิตสูงด้วย หมอก็จัดยามาให้กิน
ก็กินยามาเรื่อยๆ ได้ยินคนที่เขาเคยเป็นเบาหวานมาก่อน เขาบอกว่าถ้าได้เป็นเบาหวานแล้วไม่มี
ทางหายต้องกินยาตลอดชีวิต

วันหนึ่งได้ดูรายการธรรมะของท่านจันทร์ มีคนโทรเข้าไปในรายการ
ธรรมะของท่าน เขาบอกกับท่านจันทร์ว่าเขากินน้ำปัสสาวะของตัวเองแก้โรคเบาหวานได้ ปู่ก็เลย
เริ่มกินน้ำปัสสาวะของตัวเองตลอดมา วันละสองถึงสามครั้งบางครั้งก็ไม่แน่นอนไม่มีกำหนด
กินควบคู่กับยาของหมดที่จัดมาให้ นึกถึงตอนไหนก็กินตอนนั้นเลยละ ไม่เว้นวันเลย อยู่ต่อมาจาก
เดือนเมษายนจนใกล้จะเข้าพรรษา ปู่ก็ได้บวชเป็นพระการกินน้ำปัสสาวะก็ได้กินอยู่เรื่อยๆ จิตใจนึก
อยากจะทำสมาธิ วิปัสสนาขึ้นมา ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่มีผู้สอน ก็เลยนึกถึงพระอาจารย์
ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ (พระอจารย์ต้น) ที่อยู่ดอยเวียงเกี๋ยงวนา จ.เชียงราย ท่านเคยสอนวิธี
ทำสมาธิ วิปัสสนา เมื่อตอนที่ปู่ยังไม่ได้บวช โดยการเรียนรู้เรื่องของร่างกายก่อน ก่อนที่จะไป
ทำสมาธิหรือวิปัสสนา ถ้าไม่เรียนรู้เรื่องของร่างกายแล้วไปทำสมาธิ วิปัสสนา มันจะหลงได้ง่าย
ท่านก็เลยให้ท่องธาตุฯ ปู่ก็เลยจับธาตุกัมมัฏฐาน ๔ ท่องไว้เป็นหลัก แล้วท่านพระอาจารย์ก็มารู้
ภายหลังว่าการท่องธาตุฯ เป็นการเจริญกายาคตาสติ อันพระพุทธเจ้าบอกไว้ว่าสามารถรักษาโรค
ได้ซึ่งท่านพระอาจารย์เองค้นพบในพระไตรปิฎก ปู่ก็เลยท่องธาตุฯไว้เป็นประจำ ทั้งกินยาหมอด้วย
ทั้งกินน้ำปัสสาวะด้วยก็รู้สึกว่าร่างกายมีอาการดีขึ้น

พอออกพรรษาก็เลยตั้งใจขึ้นไปศึกษาธรรมะกับพระอาจารย์ ที่ดอยเวียงเกี๋ยงวนา ท่านก็
สอนพระวินัยหลายๆอย่างให้ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะที่วัดที่ปู่จำพรรษาอยู่นั้นไม่มีใครสอนพระวินัยเลย
ท่านพระอาจารย์ก็บอกให้ท่องธาตุฯมากๆ แล้วให้คิดแยกแยะร่างกายตามส่วนแห่งธาตุทั้งสี่ที่ได้
ท่องมา จากนั้นก็ให้เรียนรู้เรื่องของขันธ์ห้าต่อไป ปู่ก็ท่องไปพิจารณาไปแล้วสังเกตดูร่างกายของ
ตัวเองว่า ร่างกายมันดีขึ้นจนผิดปรกติ หิวก็ไม่หิวเหมือนเดิม จึงหยุดกินยาที่หมอให้มา แต่ก็ยัง
กินน้ำปัสสาวะอยู่ตลอด วันละ ๒-๓ ครั้ง ตอนหยุดยาใหม่ๆคิดว่าโรคจะกำเริบมันก็ไม่กำเริบ
โรคเบาหวานที่สังเกตได้ง่ายก็คือ ความหิว มันจะหิวอยู่บ่อยๆ กลางคืนจะหิวกระหายน้ำมาก
กลางวันจะหิวอาหารบ่อย นี้คืออาการของโรคเบาหวานที่ปู่เป็น

พอถึงเดือนเมษายนก็ลาพระอาจารย์ลงจากดอยกลับไปที่อีสาน จ.มุกดาหาร ปู่ก็ไม่ได้ลดละ
การท่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔ และพิจารณาขันธ์ ๕ อยู่ตลอด ดูอาการของโรคเบาหวานไปด้วย
กินน้ำปัสสาวะไปด้วยก็รู้สึกว่าจะปรกติดีอยู่ จึงได้ไปให้หมอตรวจดูร่างกายอีกครั้ง พอหมอตรวจ
เสร็จหมอก็มองดูเครื่องแล้วมา มองดูหน้าผู้ป่วย หมอทำเป็นตะลึงแล้วบอกว่า “ลดยาได้แล้ว”
ปู่ก็เลยบอกกับหมอว่า “เลิกยานานแล้ว” หมอก็เลยบอกว่า “งั้นก็เลิกเลยนะแต่ให้ระวังอีกสัก
สองสามปีนะ กลัวมันจะกลับมาเป็นอีก”

ถึงแม้ปู่จะหายเป็นปรกติดีแล้วแต่ก็ไม่ลดละการท่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔ และพิจารณาขันธ์ ๕
เพราะความเจ็บป่วยเป็นของไม่แน่นอน เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ปัจจุบันนี้ปู่จำพรรษาอยู่ที่
ดอยเวียงเกี๋ยงวนาเพื่ออบรมจิตใจของตนให้พบกับความสงบอย่างถาวร(ถ้าเป็นไปได้)
สิ่งที่ปู่ได้นำมาเล่าให้ฟังนี้ คิดว่าคงจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ อยู่บ้าง จึงได้เขียนออกมา
เผยแผ่เพื่อประดับความรู้ของพวกเราทั้งหลาย

ขออำนาจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลบุญที่เกิดจากการเขียนเรื่องนี้ของข้าพเจ้า
จงเป็นของผู้เผยแผ่รายการ “ธรรมโอสถ” และเป็นของท่านผู้อ่าน.

พระบุญมา มหาปุญโญ
ผู้ดูแลบอร์ด
Administrator
 
โพสต์: 23
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 12 ก.พ. 2010 9:28 pm

ย้อนกลับไปยัง ธรรมโอสถ

ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน

cron