วัตถุมงคล

[pornphat]

สงสัยคะว่าทำไมพระบางองค์หรือบางวัดถึงชอบทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลหลากหลายรูปแบบเพราะสังเกตเห็นว่าพระปฏิบัติธรรมจะไม่ส่งเสริมหรือให้ลูกศิษย์ทั้งหลายนับถือวัตถุเหล่านั้นเพราะถือว่างมงายจะสอนแต่ให้ปฏิบัติธรรมตามแนวของพระพุทธเจ้าคือสติปัฏฐานสี่เท่านั้น แต่ก็สังเกตดูว่าพระองค์ที่ปลุกเสกวัตถุต่างๆ นั้นก็ให้ธรรมะในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้นท่านก็สอนเก่งมากรู้เรื่องดีมากถึงขั้นตอนของการเป็นพระ อริยบุคคลในขั้นต่างๆ

[พระอาจารย์ต้น]

ตอบคำถามที่สงสัยว่า
ทำไมพระบางองค์หรือบางวัด ถึงชอบทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลหลากหลายรูปแบบ

นี่เป็นคำถามที่ดีมาก (อยากจะตอบมานานแล้ว)
พระที่ชอบกระทำการปลุกเสก เพราะว่าพระเหล่านั้น
ไม่ได้มุ่งมั่นเล่าเรียนศึกษา ในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง
ใฝ่เรียนแต่ในเรื่องเวทมนต์คาถา แล้วมีความเชื่อมั่นในเวทมนต์คาถา
ไม่ได้ให้ความศรัทธาในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเลย

แล้ววัตถุปลุกเสกที่กระทำกันขึ้นมา ไม่ใช่แค่เรื่องของความงมงายเท่านั้น
แต่เป็นเรื่องของความ "ลวงโลก"
พระที่กระทำการปลุกเสก ก็เป็นบุคคลผู้ลวงโลก เป็นโมฆะบุรุษ
ที่พระพุทธเจ้าตำหนิไว้ว่า เปรียบเสมือน "ไซ" ดักล่อมนุษย์

ถึงแม้พระที่ทำการปลุกเสกนั้น จะให้ธรรมะในเรื่องของการปฏิบัติธรรม
รู้เรื่องดีมากถึงขั้นตอนของการเป็นพระอริยบุคคลในขั้นต่างๆ ได้ก็ตา่ม
ท่านก็เป็นเพียงแค่ "พระใบลานเปล่า" ที่รู้จักแต่สอน แต่ไม่สามารถละกิเลสในตนเองได้
พระภิกษุประเภทนี้ พระพุทธเจ้าทรงตำหนิไว้มากในคราวครั้งพุทธกาล

ถ้าหากพระที่ทำปลุกเสกเป็นพระอรหันต์
ก็ขอให้คุณรู้ว่า พระอรหันต์ที่มีความรู้ในพระพุทธพจน์ (คำที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้) น้อย
ก็พาโยมลงนรกได้เหมือนกัน
พระอรหันต์เหล่านั้นรู้เพียงแต่การละกิเลสของตนเท่านั้น
แต่ไม่สามารถละกิเลสให้บุคคลอื่นได้

ให้ึคุณสังเกตเรื่องราวในทางพระพุทธศาสนา
ที่บุคคลกระทำขึ้นมาในยุคสมัยนี้ว่า
เลอะเลือนไปจากคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามากแค่ไหน
คุณไม่ควรยึดถือคำสอนของสาวกยุคหลังเป็นหลัก
แต่คุณควรยึดถือคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้เป็นหลัก
คุณก็จะหายสงสัยพฤติกรรมของพระทั้งหลา่ยเหล่านั้นเอง

(พระอาจารย์ต้นให้ตอบอย่างนี้)

[undaheya]

"ถ้าหากพระที่ทำปลุกเสกเป็นพระอรหันต์
ก็ขอให้คุณรู้ว่า พระอรหันต์ที่มีความรู้ในพระพุทธพจน์ (คำที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้) น้อย
ก็พาโยมลงนรกได้เหมือนกัน
พระอรหันต์เหล่านั้นรู้เพียงแต่การละกิเลสของตนเท่านั้น
แต่ไม่สามารถละกิเลสให้บุคคลอื่นได้"
___________________________________________________________________

น่าจะเป็น "ไม่สามารถสอนการละกิเลสให้บุคคลอื่นได้" รึเปล่าคะ
เพราะไม่น่าจะมีใครสามารถที่จะไปละกิเลสให้ผู้อื่นได้ แต่ชี้ทางหรือสอนให้ละนี่ได้อยู่
(สงสัยว่าน่าจะพิมพ์ตกหล่นไปน่ะค่ะ)

[พระอาจารย์ต้น]

"ถ้าหากพระที่ทำปลุกเสกเป็นพระอรหันต์
ก็ขอให้คุณรู้ว่า พระอรหันต์ที่มีความรู้ในพระพุทธพจน์ (คำที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้) น้อย
ก็พาโยมลงนรกได้เหมือนกัน
พระอรหันต์เหล่านั้นรู้เพียงแต่การละกิเลสของตนเท่านั้น
แต่ไม่สามารถละกิเลสให้บุคคลอื่นได้"

เรื่องนี้อาจคุยกันยาว แต่ก็ขอยืนยันว่าข้อความข้างบนนี้ พิมพ์ถูกทุกตัวอักษร
และขอย้ำว่า "พระอรหันต์ รู้แต่เพียงการละกิเลสของตนเท่านั้น ไม่สามารถละกิเลสของบุคคลอื่นได้"
ในเมื่อท่านไม่สามารถละกิเลสของคนอื่นๆได้ ท่านจึงคล้อยตามกิเลสของคนอื่น เพราะท่านมีความรู้ในการสั่งสอนน้อย
แม้พระอรหันต์เหล่านั้นจะอึดอัดและรำคราญต่อกิเลสของบุคคลนั้นๆ ก็ตาม ท่านก็ไม่กล้าเอ่ยตำหนิ
แต่อาจจะมีการสอนด้วยคำพูดที่เป็นปริศนาอยู่บ้าง แต่คนมีกิเลสมันก็ไม่เข้าใจ พระอรหันต์เหล่านั้นก็เลย
เออออไปด้วย

[pornphat]

เวลาวันหยุดดิฉันและครอบครัวญาติ ๆ มักจะไปวัดส่วนตัวดิฉันเองก็จะไปเพื่ออยากฟังธรรมเท่านั้นแต่ญาติๆ เขามักจะไปขอของขลังต่างๆ กันดิฉันเองก็ไม่อยากรับแต่ก็กลัวพระท่านจะเสียหน้าส่วนญาติๆ เขาก็รู้ว่าดิฉันไม่ชอบ เขาก็กลัวว่าดิฉันจะทำให้พวกเขาขายหน้ากันดิฉันยอมรับไว้แต่พอออกมาข้างนอกดิฉันก็ให้คนอื่นไป และอยากจะบอกพวกเขาว่าจะบูชาพระ หรือบูชาของขลังกันแน่แต่ก็ไม่กล้าบอกเพราะพวกเขาไม่เข้าใจธรรมะแน่นอน แค่ทุกวันนี้พวกเขาก็มักจะมองดิฉันเป็นคนเพี้ยนๆ อยู่ นี่เป็นเพราะเหตุใดหรือคะที่พวกเขาแม้แต่ลูกของดิฉันเองก็ไม่เข้าใจเวลาดิฉันพูดถึงธรรมะให้เขาฟัง และการที่ดิฉันนำของขลังเหล่าให้คนอื่นๆ ไปทุกครั้งที่ไปวัด ตัวเองจะบาปหรือไม่หรือเรียกว่าลบลู่ หรือเปล่าคะ ก็ดิฉันไม่อยากได้จริงๆ เพราะคิดว่าเราควรบูชาในสิ่งที่ควรบูชา

[กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง]

การรับวัตถุมงคลของขลังทั้งๆที่รู้ว่ามันผิดก็ถือว่า เป็นบาป!

รับมาแล้วนำไปให้คนอื่นอีกก็ถือว่า เป็นบาป!

วัตถุมงคลของขลังเป็นสิ่งที่ควร "ลบหลู่" ไว้ไห้มากที่สุดเพราะทำให้คนหลงงมงาย... ไม่บาป!

ทำให้พระขายหน้าบ้าง พระจะได้รูสึกตัว

ลูกๆไม่เข้าใจก็ต้องสอนลูกๆให้เข้าใจ ถ้่าสอนแล้วก็ยังไม่เข้าใจก็ปล่อยซะ...

ถ้าเรามี "ธรรมะ" ซะอย่าง ไม่ต้องกลัวอะไรเลยในสามแดนโลกธาตุนี้

คนอื่นว่าเรา "เพี้ยน" แต่เราไม่ได้เพี้ยนจริง แล้วเข้าใจว่าตนเอง "เพี้ยน" เพราะคำกล่าวหาของคนอื่น อันนี้คุณเริ่มเพี้ยนแล้ว

เพราะเป็นการปรักปรำความผิดของตนเอง ทั้งๆที่คุณไม่ผิด

จงเชื่อมั่นตัวเองไว้ถ้าแน่ใจว่าได้กระทำตามหลักธรรมแล้ว