หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ความหมายของ...
โพสต์แล้ว:
จันทร์ 11 มิ.ย. 2012 9:21 pm
โดย แมงปอ
1. ปลายขนทราย
2.เลี้ยวที่ 16
3.อณู
4.ปรมาณู
Re: ความหมายของ...
โพสต์แล้ว:
พฤหัสฯ. 14 มิ.ย. 2012 3:46 pm
โดย กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง
ความหมายของคำว่า "ปลายขนทราย"
]พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ เทวดาในหมื่นโลกธาตุมาประชุมกันโดยมากเพื่อจะเห็นตถาคต
เมืองกุสินาราสาลวันอันเป็นที่แวะพักแห่งมัลลกษัตริย์เพียงเท่าใดโดยรอบถึง ๑๒ ตลอดที่เพียงเท่านี้
จะหาประเทศแม้มาตรว่าเป็นจรดลงแห่งปลายขนทราย อันเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่
มิได้ถูกต้องแล้วมิได้มี พวกเทวดายกโทษอยู่ว่า เรามาแต่ที่ไกลเพื่อจะเห็นพระตถาคต พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
จะเสด็จอุบัติในโลก ในบางครั้งบางคราว ในปัจฉิมยามแห่งราตรีวันนี้แหละ พระตถาคตจักปรินิพพาน
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 308
และ...........
บทว่า อปฺปฎิโม (ไม่มีผู้เปรียบ) ความว่า อัตภาพเรียกว่ารูปเปรียบ ชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบ เพราะรูปเปรียบอื่น
เช่นกับอัตภาพของท่านไม่มี อีกอย่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหลายกระทำรูปเปรียบใด ล้วนแล้วด้วยทองและเงินเป็นต้น
ในบรรดารูปเปรียบเหล่านั้น ชื่อว่าผู้สามารถกระทำโอกาสแม้สักเท่าปลายขนทราย
ให้เหมือนอัตภาพของพระตถาคต ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบแม้โดยประการทั้งปวง
บทว่า อปฺปฎิสโม (ไม่มีผู้เทียบ) ความว่า ชื่อว่าไม่มีผู้เทียบ เพราะใคร ๆ ชื่อว่าผู้จะเทียบกับอัตภาพของพระตถาคต นั้นไม่มี.
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 214
และ........
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน อย่างไหนจะทำได้ยากกว่ากัน
หรือจะให้เกิดขึ้นได้ยากกว่ากัน คือ การที่ยิงลูกศรให้เข้าไปติด ๆ กันโดยช่องดาลอันเล็กแต่ที่ไกลได้ไม่ผิดพลาด
กับการแทงปลายขนทรายด้วยปลายขนทรายที่แบ่งออกแล้วเป็น ๗ ส่วน.
อานนท์. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การแทงปลายขนทรายด้วยปลายขนทรายที่แบ่งออกแล้วเป็น ๗ ส่วน
กระทำได้ยากกว่าและให้เกิดขึ้นได้ยากกว่าพระเจ้าข้า.
พระพุทธเจ้า. ดูก่อนอานนท์ ชนเหล่าใดย่อมแทงตลอดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับทุกข์
นี้ทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ชนเหล่านั้นย่อมแทงตลอดได้ยากกว่าโดยแท้ เพราะฉะนั้นแหละ อานนท์
เธอพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
Re: ความหมายของ...
โพสต์แล้ว:
พฤหัสฯ. 14 มิ.ย. 2012 4:23 pm
โดย กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง
เสี้ยวที่ 16
ใน สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 268 (เล่มที่ ๓๑)
ราชสูตร แสดงไว้ว่า...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การได้ทวีปทั้ง ๔ กับการได้ธรรม ๔ ประการ (คุณธรรมของพระโสดาบัน)
การได้ทวีปทั้ง ๔ ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ ซึ่งจำแนกออกไปแล้ว ๑๖ หน ของการได้ธรรม ๔ ประการ
และ...
ใน อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 503 (เล่มที่ ๓๘)
วิตถตสูตร กล่าวไว้ว่า...
พระจันทร์เเละพระอาทิตย์ทั้งสองส่องสว่างไสว ย่อมโคจรไปตามวิถีเพียงไร
พระจันทร์และพระอาทิตย์นั้น ก็ขจัดมืดได้เพียงนั้น ลอยอยู่บนอากาศ ส่องแสงสว่างทั่วทุกทิศในท้องฟ้า
ทรัพย์ใดอันมีอยู่ในระหว่างนี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ อย่างดี หรือทองมีสีสุกใส ที่เรียกกันว่า หตกะ
พระจันทร์ พระอาทิตย์ และทรัพย์นั้น ๆ ก็ยังไม่ได้แม้เสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ
เปรียบเหมือนรัศมีพระจันทร์ข่มหมู่ดวงดาวทั้งหมด ฉะนั้น
เพราะฉะนั้นแหละ หญิงหรือชายผู้มีศีล เข้าอยู่ในอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว
กระทำบุญทั้งหลายอันมีสุขเป็นกำไร ไม่มีใครติเตียน ย่อมเข้าถึงสวรรค์.