ลักษณะของพระอนาคามีเป็นอย่างไร?

พูดคุยปัญหาเรื่องราว ต่างๆเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมะ

Moderator: ดอยเวียงเกี๋ยงวนา

ลักษณะของพระอนาคามีเป็นอย่างไร?

โพสต์โดย วิทย์ » อังคาร 26 ก.ค. 2011 8:13 pm

เราจะทราบได้อย่างไรว่า ใครเป็นพระอนาคามี ในเพศฆราวาส

จะสังเกตอย่างไรครับ?
วิทย์
สมาชิกทั่วไป
 
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 16 ก.ค. 2011 5:35 pm

Re: ลักษณะของพระอนาคามีเป็นอย่างไร?

โพสต์โดย กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง » พุธ 27 ก.ค. 2011 9:53 am

พึงกระทำการสังเกต และ พิจารณาตามเรื่องราวดังต่อไปนี้เถิด

ว่าด้วยทรงสรรเสริญฆฏิการะ

มีอยู่ มหาบพิตร นิคมชื่อเวภฬิคะ ช่างหม้อชื่อฆฏิการะ อยู่ในนิคมนั้น เขาเป็นอุปัฏฐากของอาตมภาพ นับเป็นอุปัฏฐากชั้นเลิศ
พระองค์แลทรงเสียพระทัยมีความโทมนัสว่า พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ทรงรับการอยู่
จำพรรษาในเมืองพาราณสีของเราเสียแล้ว ความเสียใจและความโทมนัสนี้นั้น ย่อมไม่มี และ จักไม่มีในช่างหม้อฆฏิการะ

ดูก่อนมหาบพิตร ช่างหม้อฆฏิการะแล ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ เว้นขาดจากปาณาติบาต เว้นขาดจาก
อทินนาทาน เว้นขาดจากกาเมสุมิจฉาจาร เว้นขาดจากมุสาวาท เว้นขาดจากน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่ง
ความประมาท

]ดูก่อนมหาบพิตร ช่างหม้อฆฏิการะเป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใส อันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม
ในพระสงฆ์ ประกอบด้วยศีลที่พระอริยะเจ้าใคร่ ดูก่อนมหาบพิตร ช่างหม้อฆฏิการะ เป็นผู้หมดสงสัยในทุกข์
ในทุกขสมุทัย ในทุกขนิโรธ ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บริโภคภัตมื้อเดียว ประพฤติพรหมจรรย์ มีศีล
มีกัลยาณธรรม ปล่อยวางแก้วมณี และทองคำ ปราศจากการใช้ทองและเงิน

ดูก่อนมหาบพิตร ช่างหม้อฆฏิการะแล ไม่ขุดแผ่นดินด้วยสากและด้วยมือของตน นำมาแต่ดินตลิ่งพัง หรือขุยหนู
ซึ่งมีอยู่ด้วยหาบ ทำเป็นภาชนะแล้วกล่าวอย่างนี้ว่า ในภาชนะนี้ ผู้ใดต้องการ ผู้นั้นจงวางถุงใส่ข้าวสาร
ถุงใส่ถั่วเขียว หรือถุงใส่ถั่วดำไว้ แล้วนำภาชนะที่ต้องการนั้นไปเถิด


ดูก่อนมหาบพิตร ช่างหม้อฆฏิการะ เลี้ยงมารดาบิดา ผู้ชรา ตาบอด ช่างหม้อฆฏิการะ เป็นอุปปาติกะ(ผุดเกิดขึ้น)
จะปรินิพพานในภพนั้น มีการไม่กลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา เพราะโอรัมภาคิยสัญโญชน์
ห้าประการหมดสิ้นไป (บรรลุอนาคามี)


ดูก่อนมหาบพิตร ครั้งหนึ่ง อาตมภาพอยู่ที่นิคมชื่อเวภฬิคะนั้นเอง เวลาเช้า อาตมภาพนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร
เข้าไปหามารดาบิดาของฆฏิการะช่างหม้อถึงที่อยู่ แล้วได้ถามว่า ดูเถิด นี่คนหาอาหารไปไหนเสียเล่า

มารดาบิดาของฆฏิการะช่างหม้อตอบว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุปัฏฐากของพระองค์ออกไปเสียแล้ว
ขอพระองค์จงเอาข้าวสุกจากหม้อข้าวนี้เอาแกงจากหม้อแกงนี้เสวยเถิด

ดูก่อนมหาบพิตร ครั้งนั้น อาตมภาพได้เอาข้าวสุกจากหม้อข้าว เอาแกงจากหม้อแกงฉันแล้ว ลุกจากอาสนะหลีกไป
ลำดับนั้น ฆฏิการะช่างหม้อเข้าไปหามารดาบิดาถึงที่อยู่ แล้วได้ถามว่า ใครมาเอาข้าวสุกจากหม้อข้าว เอาแกงจากหม้อแกง
บริโภคแล้ว ลุกจากอาสนะหลีกไป

มารดาบิดาบอกว่า ดูก่อนพ่อ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า กัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเอาข้าวสุกจากหม้อข้าว
เอาแกงจากหม้อแกงเสวยแล้วเสด็จลุกจากอาสนะหลีกไป ครั้งนั้น ฆฏิการะช่างหม้อมีความคิดเห็นว่า เป็นลาภของเราหนอ
เราได้ดีแล้วหนอ ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่ากัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงคุ้นเคยอย่างยิ่งเช่นนี้แก่เรา

ดูก่อนมหาบพิตร ครั้งนั้น ปีติและสุขไม่ละฆฏิการะช่างหม้อตลอดกึ่งเดือน ไม่ละมารดาบิดา ตลอดเจ็ดวัน ดูก่อนมหาบพิตร
ครั้งหนึ่ง อาตมภาพอยู่ที่เวภฬิคนิคมนั้นเอง ครั้นนั้นในเวลาเช้า อาตมภาพนุ่งแล้ว ถือบาตร และ จีวร เข้าไปหามารดาบิดา
ของฆฏิการะช่างหม้อถึงที่อยู่ แล้วได้ถามว่า ดูเถิด นี่คนหาอาหารไปไหนเสียเล่ามารดาบิดาของ ฆฏิการะช่างหม้อตอบว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุปัฏฐากของพระองค์ออกไปเสียแล้ว ขอพระองค์จงเอาขนมสดจากกระเช้านี้
เอาแกงจากหม้อแกงเสวยเถิด

ดูก่อนมหาบพิตร ครั้งนั้น อาตมภาพได้เอาขนมสดจากกระเช้า เอาแกงจากหม้อแกงฉันแล้ว ลุกจากอาสนะหลีกไป ลำดับนั้น
ฆฏิการะช่างหม้อเข้าไปหามารดาบิดาถึงที่อยู่ แล้วได้ถามว่า ใครมาเอาขนมสดจากกระเช้า เอาแกงจากหม้อแกงบริโภค
แล้วลุกจากอาสนะหลีกไป มารดาบิดาบอกว่า ดูก่อนพ่อ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า กัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงเอาขนมสดจากกระเช้า เอาแกงจากหม้อแกงเสวยแล้ว เสด็จลุกจากอาสนะหลีกไป

ครั้งนั้น ฆฎิการะช่างหม้อมีความคิดเห็นว่า เป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ ที่พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่า
กัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงคุ้นเคยอย่างยิ่ง เช่นนี้แก่เรา ดูก่อนมหาบพิตร ครั้งนั้น ปีติและสุขไม่ละฆฏิการะ
ช่างหม้อตลอดกึ่งเดือน ไม่ละมารดาบิดาตลอดเจ็ดวัน

ดูก่อนมหาบพิตร ครั้งหนึ่ง อาตมภาพอยู่ที่เวภฬิคนิคมนั้นเอง ก็สมัยนั้น กุฏิรั่ว อาตมภาพจึงเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงพากันไปดูหญ้าที่นิเวศน์ของฆฏิการะช่างหม้อ เมื่ออาตมภาพกล่าวอย่างนี้แล้ว
ภิกษุเหล่านั้นได้กล่าวกะอาตมภาพว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หญ้าที่นิเวศน์ของฆฏิการะช่างหม้อไม่มี มีแต่หญ้าที่มุงหลังคาเรือนที่ฆฏิการะช่างหม้ออยู่เท่านั้น
อาตมภาพได้สั่งภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงพากัน ไปรื้อหญ้าที่มุงหลังคาเรือน
ที่ฆฏิการะช่างหม้ออยู่มาเถิด

ดูก่อนมหาบพิตร ครั้งนั้นภิกษุเหล่านั้นได้ไปรื้อหญ้าที่มุงหลังคาเรือนที่ฆฏิการะช่างหม้ออยู่มาแล้ว ลำดับนั้น มารดาบิดา
ของฆฏิการะช่างหม้อได้กล่าวกะภิกษุเหล่านั้นว่า ใครมารื้อหญ้ามุงหลังคาเรือนเล่า

ภิกษุทั้งหลายตอบว่า ดูก่อนนาง กุฎีของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ารั่ว
มารดาบิดาฆฏิการะช่างหม้อได้กล่าวว่า เอาไปเถิดเจ้าข้าเอาไปตามสะดวกเถิดท่านผู้เจริญ

ครั้งนั้น ฆฏิการะช่างหม้อเข้าไปหามารดาบิดาถึงที่อยู่ แล้วได้ถามว่า ใครมารื้อหญ้ามุงหลังคาเรือนเสียเล่า.
มารดาบิดาตอบว่า ดูก่อนพ่อ ภิกษุทั้งหลายบอกว่า กุฎีของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า
กัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ารั่ว

ดูก่อนมหาบพิตร ครั้งนั้นฆฏิการะช่างหม้อมีความคิดเห็นว่า เป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ ที่พระผู้มีพระภาค
ทรงพระนามว่ากัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงคุ้นเคยอย่างยิ่งเช่นนี้แก่เรา ดูก่อนมหาบพิตร ครั้งนั้น ปีติและสุข
ไม่ละฆฏิการะช่างหม้อตลอดกึ่งเดือนไม่ละมารดาบิดาตลอดเจ็ดวัน และครั้งนั้น เรือนที่ฆฏิการะช่างหม้ออยู่ทั้งหลังนั้น
มีอากาศเป็นหลังคาอยู่ตลอดสามเดือน ถึงฝนตกก็ไม่รั่วดูก่อนมหาบพิตร ฆฏิการะช่างหม้อมีคุณเห็นปานนี้

พระเจ้ากิกิกาสิราช : ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เป็นลาภของฆฏิการะช่างหม้อแล้ว ฆฏิการะช่างหม้อได้ดีแล้ว
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงคุ้นเคยอย่างยิ่งเช่นนี้แก่เขา

ดูก่อนอานนท์ ครั้งนั้น พระเจ้ากิกิกาสิราชได้ส่งเกวียนบรรทุกข้าวสารข้าวปัณฑุมุฑิกสาลีประมาณห้าร้อยเล่ม
และเครื่องแกงอันสมควรแก่ข้าวสารนั้น ไปพระราชทานแก่ฆฏิการะช่างหม้อ ครั้งนั้น ราชบุรุษทั้งหลายเข้าไปหา
ฆฏิการะช่างหม้อ แล้วได้กล่าวว่า

ดูก่อนท่านผู้เจริญ นี้ข้าวสารข้าวปัณฑุมุฑิกสาลีบรรทุกเกวียนประมาณห้าร้อยเล่ม และเครื่องแกงอันสมควรแก่ข้าวสารนั้น
พระเจ้ากิกิกาสิราชส่งมาพระราชทานแก่ท่านแล้ว จงรับของพระราชทานเหล่านั้นไว้เถิด ฆฏิการะช่างหม้อได้ตอบว่า
พระราชามีพระราชกิจมาก มีราชกรณียะมาก ของที่พระราชทานมานี้ อย่าเป็นของข้าพเจ้าเลย จงเป็นของหลวงเถิด

ดูก่อนอานนท์ เธอจะพึงมีความคิดเห็นว่า สมัยนั้น คนอื่นได้เป็นโชติปาลมาณพแน่นอน แต่ข้อนั้นเธอไม่ควรเห็นอย่างนั้น
สมัยนั้นเราได้เป็นโชติปาลมาณพ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ท่านพระอานนท์ยินดีชื่นชม
พระภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ดังนี้แล.

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม 21 หน้าที่ 10

แก้ไขล่าสุดโดย กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง เมื่อ ศุกร์ 29 ก.ค. 2011 9:27 am, แก้ไขแล้ว 7 ครั้ง.
กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง
สมาชิกทั่วไป
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 25 เม.ย. 2010 6:56 am

Re: ลักษณะของพระอนาคามีเป็นอย่างไร?

โพสต์โดย วิทย์ » ศุกร์ 29 ก.ค. 2011 8:53 am

เข้าใจแล้วครับ... รู้สึกว่าไม่มีให้เห็นเลย ที่เป็นเหมือนกับท่านฆฏิการะ มีแต่พวกแอบอ้างว่าตนได้เป็นพระอนาคามี

แต่พฤติกรรมห่างไกลกันมากกับท่านฆฏิการะ อย่างนี้น่าจะมาอ่านเรื่องของฆฏิการะกันบ้าง จะได้รู้สึกตัวว่าหลงผิด ผมอยู่กรุงเทพฯเจอพวกนี้เยอะครับ

ตอนแรกก็เกรงๆอยู่ เคยถามปัญหาในเวปธรรมะหลายๆที่แล้ว ยังไม่เจอคำตอบที่กระจ่าง ตอนนี้กระจ่างแล้วครับ
วิทย์
สมาชิกทั่วไป
 
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 16 ก.ค. 2011 5:35 pm

Re: ลักษณะของพระอนาคามีเป็นอย่างไร?

โพสต์โดย วานิชยา » ศุกร์ 29 ก.ค. 2011 9:10 am

ดูเหมือนจะมีพระอนาคามีที่เป็นโยมชุกชุมมากในยุคนี้ แต่ไม่เหมือนกับฆฏิการะนี้เลย
วานิชยา
สมาชิกทั่วไป
 
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 16 ก.ค. 2011 7:22 am


ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ ปัญหาธรรมะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน

cron