ควรทำอย่างไรเมื่อเกิดภัยพิบัติ?

พูดคุยปัญหาเรื่องราว ต่างๆเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมะ

Moderator: ดอยเวียงเกี๋ยงวนา

ควรทำอย่างไรเมื่อเกิดภัยพิบัติ?

โพสต์โดย วิทย์ » เสาร์ 23 ก.ค. 2011 7:08 pm

ในความเป็นชาวพุทธที่นับถือพระพุทธศาสนา เราควรทำอย่างไรเมื่อประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติครับ
วิทย์
สมาชิกทั่วไป
 
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 16 ก.ค. 2011 5:35 pm

Re: ควรทำอย่างไรเมื่อเกิดภัยพิบัติ?

โพสต์โดย กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง » อังคาร 26 ก.ค. 2011 8:04 pm

วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดภัยพิบัติ

ได้ยินว่า ชนจำนวนมากด้วยกันได้ทำการค้าทางทะเลใช้เรือแล่นไปสู่ทะเล เมื่อเรือแห่งชนเหล่านั้นไปอยู่โดยเร็วปานลูกธนู
อันบุคคลซัดไปแล้วในวันที่ ๗ จึงเกิดเหตุร้ายใหญ่ในท่ามกลางทะเล คือ คลื่นใหญ่ตั้งขึ้นแล้วก็ยังเรือให้เต็มไปด้วยน้ำ
เมื่อเรือกำลังจะจมลง มหาชนจึงนึกถึงชื่อเทวดาของตน ๆ แล้วกระทำกิจมีการอ้อนวอนเป็นต้น คร่ำครวญแล้ว

ในท่ามกลางแห่งชนเหล่านั้น บุรุษคนหนึ่งนึกว่า เราต้องประสบภัยร้ายเห็นปานนี้แน่ จึงนึกถึงธรรมของตน
เห็นแล้วซึ่งสรณะทั้งหลาย และศีลทั้งหลายก็บริสุทธิ์แล้ว จึงนั่งขัดสมาธิ ดุจพระโยคี พวกชนทั้งหลายจึงถามท่านถึงเหตุ
อันไม่กลัวนั้น บุรุษผู้เป็นบัณฑิตนั้นจึงกล่าวว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย ใช่แล้ว เราไม่กลัวภัยเห็นปานนี้
เพราะเราถวายทานแก่หมู่แห่งภิกษุในวันที่ขึ้นเรือ เราได้รับสรณะทั้งหลาย และศีลทั้งหลาย ด้วยเหตุนั้น เราจึงไม่กลัว ดังนี้
ชนเหล่านั้น จึงกล่าวว่า ข้าแต่นาย ก็สรณะและศีลเหล่านี้ สมควรแก่ชนพวกอื่นบ้างหรือไม่ บัณฑิตนั้นตอบว่า ใช่แล้ว
ธรรมเหล่านี้ ย่อมสมควรแม้แก่พวกท่าน ชนเหล่านั้น จึงกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้น ขอท่านบัณฑิตจงให้แก่พวกเราบ้าง

ชนผู้เป็นบัณฑิตนั้น จึงจัดทำพวกมนุษย์เหล่านั้น ให้เป็นพวกละร้อยคน รวมเป็น ๗ พวกด้วยกัน ต่อจากนั้นก็ให้ศีล ๕
ในบรรดาชน ๗ พวกนั้นชนจำนวนร้อยคนพวกแรกตั้งอยู่ในน้ำมีข้อเท้าเป็นประมาณ จึงได้รับศีล พวกที่ ๒ ตั้งอยู่ในน้ำ
มีเข่าเป็นประมาณ... พวกที่ ๓ ตั้งอยู่ในน้ำมีสะเอวเป็นประมาณ... พวกที่ ๔ ตั้งอยู่ในน้ำมีสะดือเป็นประมาณ...
ชนพวกที่ ๕ ตั้งอยู่ในน้ำมีนมเป็นประมาณ... พวกที่ ๖ ตั้งอยู่ในน้ำมีคอเป็นประมาณ...พวกที่ ๗ น้ำทะเลกำลังจะ
ไหลเข้าปาก จึงได้รับศีล ๕ แล้ว ชนผู้เป็นบัณฑิตนั้น ครั้นให้ศีล ๕ แก่ชนเหล่านั้นแล้ว จึงประกาศเสียงกึกก้องว่า
สิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเฉพาะของพวกท่านไม่มี พวกท่านจงรักษาศีลเท่านั้น ดังนี้

ชนทั้ง ๗๐๐ เหล่านั้น ทำกาละ(ตาย)ในทะเลนั้นแล้ว ไปบังเกิดขึ้นในภพ ดาวดึงส์ เพราะอาศัยศีลอันตนรับเอา
ในเวลาใกล้ตาย วิมานทั้งหลายของเทวดาเหล่านั้นก็เกิดขึ้นเป็นหมู่เดียวกัน วิมานทองของอาจารย์มีประมาณร้อยโยชน์
เกิดในท่ามกลางแห่งวิมานทั้งหมด เทพที่เหลือเป็นบริวารของเทพที่เป็นอาจารย์นั้น วิมานที่ต่ำกว่าวิมานทั้งหมดนั้น
ก็ยังมีประมาณถึง ๑๒ โยชน์ เทพเหล่านั้น ได้พิจารณาผลกรรมในขณะที่คนเกิดแล้ว ทราบแล้วซึ่งการได้สมบัตินั้น
เพราะอาศัยอาจารย์ จึงกล่าวกันว่า พวกเราจักไป พวกเราจักกล่าวสรรเสริญคุณแห่งอาจารย์ของพวกเราในสำนักแห่ง
พระทศพล ดังนี้ แล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าในเวลาระหว่างมัชฌิมยาม

ในบรรดาเทวดาเหล่านั้น เทวดา ๖ องค์ ได้กล่าวคาถาองค์ละหนึ่งคาถา เพื่อพรรณนาคุณอาจารย์ของตนด้วยคำว่า

สพฺภิเรว สมาเสถ สพฺภิ กุพฺเพถ สนฺถวํ
สติ สทฺธมฺมมญฺาย เสยฺโย โหติ น ปาปิโย

บุคคลควรนั่งร่วมกับพวกสัตบุรุษ ควรทำความสนิทกับพวกสัตบุรุษ

บุคคลทราบสัทธรรมของพวกสัตบุรุษแล้ว มีแต่คุณอันประเสริฐ ไม่มีโทษลามกเลย


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม 24 หน้าที่ 154

กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง
สมาชิกทั่วไป
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 25 เม.ย. 2010 6:56 am


ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ ปัญหาธรรมะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน

cron