หน้า 1 จากทั้งหมด 1

การสละวัตถุมงคล

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 20 ก.ค. 2011 6:47 pm
โดย วานิชยา
วัตถุมงคลที่เป็นเครื่องรางปลุกเสกพอที่จะสละออกได้ แต่พระพุทธรูปมีประมาณสัก ๑๐ กว่าองค์

จะเก็บไว้เพื่อเป็นเครื่องระลึกกราบไหว้ คงจะไม่ผิดตามความหมายของ "ศาสนธรรม" หรอกนะคะ

เพราะบางทีก็เอาไว้เพื่อความอุ่นใจคะ

Re: การสละวัตถุมงคล

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 20 ก.ค. 2011 11:02 pm
โดย ธีระบุตร
วานิชยา เขียน:วัตถุมงคลที่เป็นเครื่องรางปลุกเสกพอที่จะสละออกได้ แต่พระพุทธรูปมีประมาณสัก ๑๐ กว่าองค์

จะเก็บไว้เพื่อเป็นเครื่องระลึกกราบไหว้ คงจะไม่ผิดตามความหมายของ "ศาสนธรรม" หรอกนะคะ

เพราะบางทีก็เอาไว้เพื่อความอุ่นใจคะ

มงคลในพระพุทธศาสนานั้นมี ๓๘ ประการ ในมงคลทั้งหมดนั้นหามีคำว่า"วัตถุมงคล"เลย และที่จะเอาพระพุทธรูปเก็บไว้เพื่อระลึกกราบไหว้ อยากขอถามคุณวานิชยากลับว่า
คุณวานิชยากราบพระพุทธรูปเหล่านั้นแล้วระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้จริงหรือเปล่า หรือกราบได้เฉพาะแค่วัตถุ หิน ทองเหลือง ทองแดงแค่นั้น ให้คุณวานิชยาคิดดูนะว่า
หากวันใดวันหนึ่งวัตถุรูปพวกนั้นถูกไฟเผา หรือถูกใครบางคนลักเอาไปจะอุ่นใจในวัตถุรูปเหล่านั้นหรือจะร้อนใจมากกว่า ฉะนั้นแล้ว จงเคารพ"ศาสนธรรม"ให้สูงสุดกว่าสิ่งอื่นใดในโลก

Re: การสละวัตถุมงคล

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 21 ก.ค. 2011 7:56 am
โดย วานิชยา
ความร้อนใจย่อมเกิดขึ้นอย่างที่คุณธีระบุตรว่าไว้แน่ๆ แต่ถ้าจะให้สละออกหมด

แล้วเราจะเข้าใจความเป็นมาของพระพุทธศาสนากันได้อย่างไร?

และความหมายของ "ศาสนธรรม" ที่กระจ่างชัดเป็นอย่างไรกันแน่

Re: การสละวัตถุมงคล

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 23 ก.ค. 2011 7:11 pm
โดย วิทย์
ผมขอแนะนำคุณวานิชยากลับไปอ่านกระทู้เกี่ยวกับวัตถุมงคลอีกสักรอบครับ

แล้วคุณจะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า และความหมายของ "ศาสนธรรม"

Re: การสละวัตถุมงคล

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 23 ก.ค. 2011 7:44 pm
โดย กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง
คุณวานิชยาควรอ่านหนังสือธรรมนาวาทบทวนอีกรอบ น่าจะเข้าใจเรื่องของ "ศาสนธรรม" กระจ่างขึ้น

เนื้อหา ข้อความ เรื่องราว ในหนังสือธรรมนาวา ได้อธิบายเรื่องเกี่ยวกับวัตถุรูปไว้หมดแล้ว

โปรดตรงไปตรงมาตาม เนื้อหา ข้อความ เรื่องราว ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ อย่าอ้อมค้อมไปทางอื่น

ประเดี๋ยวจะวกวนเสียเวลา หากอ่านอีกรอบแล้วยังเกิดอาการมัวๆ เซ่อๆ ซึ่มๆ อยากจะได้คำตอบที่ชัดเจน

ก็ให้ถามเข้ามาใหม่ได้ จะตอบให้แบบชัดๆ แจ้งๆ แจ่มๆ จนพอใจกันทั้งฝ่าย อย่างนี้สิถึงจะยุติธรรม

ไม่ใช่มารอแต่คำตอบ คำตอบ อยู่อย่างนี้ ตอบกี่ทีก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ฉะนั้นจึงควรเรียนรู้อย่างตรงไปตรงมา

อย่าเอาประเพณีและพิธี (รีตอง) มาเป็นเครื่องวัด ให้เอาคำตรัสของ "พระพุทธเจ้า" เป็นเครื่องวัด จึงจะถูก...แค่นี้ก่อน