รวมปัญหา ๓

พูดคุยปัญหาเรื่องราว ต่างๆเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมะ

Moderator: ดอยเวียงเกี๋ยงวนา

รวมปัญหา ๓

โพสต์โดย กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง » จันทร์ 20 มิ.ย. 2011 6:35 pm

รวมปัญหาต่างๆมาลงไว้เพื่อให้สมาชิกอ่าน

วันที่ 19 มิถุนายน 2554 มีโยมสงสัยสัยเรื่องการท่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔ จึงได้ถามมาว่า...

ถาม : ผมท่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔ มาตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.54 จำได้หมดทุกตัวแล้ว ผมจะเริ่ม

พิจารณาแยกร่างกายเป็น ดิน น้ำ ไฟ ลม ได้หรือยังครับ?


ตอบ : ยังไม่ได้ ควรท่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔ ให้ชำนาญก่อน โดยท่องให้ "ขึ้นใจ" คำว่าท่องให้ขึ้นใจนั้น

คือการที่จิตท่องขึ้นมาเองเป็นอัตโนมัติในใจ โดยที่เราไม่ต้องบังคับให้จิตท่อง และ จะต้องท่อง

ได้จนติดในใจทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะ ยืน เดิน นั่ง นอน เมื่อทำได้ดั่งที่ว่านี้แล้ว จึงเริ่มพิจารณาแยกร่างกาย

ออกเป็นธาตุ ๔ ตามส่วนต่างๆแห่งธาตุ ส่วนใดเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นไฟ เป็นลม ก็ให้ใช้ "ความคิด" คิดให้

เห็นร่างกายส่วนนั้นๆ(ให้เห็นภายในความคิด) เป็นดิน เป็นน้ำ เป็นไฟ เป็นลม ให้ทำบ่อยๆทำมากๆ

จนเกิดความคล่องแคล่วในความคิด จนสามารถคิดได้ตลอดเวลา แม้ในขณะที่ทำงานอยู่ก็คิดพิจารณา

แยกธาตุ ๔ ได้ จากนั้นจิตจะเริ่มสงบ(เป็นอาการที่จิตอยากสงบเอง) ก็ปล่อยให้จิตสงบไปตามเรื่องของจิต

แต่เราก็ยังต้องคิดพิจารณาแยกร่างกายเป็นธาตุ ๔ ต่อไป จนเกิดอยากจะนั่งสมาธิขึ้นมาก็ให้ไปนั่งได้

แต่ไม่ต้องทำอะไรในขณะที่นั่ง ให้นั่งดูอาการของจิตอย่างนั้นไปเรื่อยๆ จิตก็จะเข้าสู่สมาธิเอง

ถาม: ผมมีความรู้สึกขัดเคืองกับเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งผมก็ไม่อยากมีความรู้สึกในจิตอย่างนี้

มันทำให้ผมทุกข์ และทำงานได้ไม่ดี ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดีครับ?


ตอบ : เรื่องของอารมณ์ที่มากระทบกับจิต จนเกิดเป็นความขัดเคืองขึ้นมา ซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงอารมณ์

กระทบได้ ตามธรรมดา "อารมณ์" ที่เกิดหลังจากการกระทบ จะดับทันที จะไม่ตกค้างในจิตจนกลายเป็นความขุ่นเคือง

แต่ที่เกิดความขัดเคืองขึ้น เป็นเพราะเรายึดถืออารมณ์นั้นไว้อยู่ แต่เราก็บอกว่าไม่อยากให้อารมณ์นี้เกิด

อยากให้มันดับไป แต่มันก็ไม่ดับ ก็เลยกลายเป็นความขุ่นเคือง อาการที่เราบอกว่า "ไม่อยากให้อารมณ์นี้เกิด

อยากให้มันดับไป" นี้แหละคืออาการที่เรายึดถืออยู่ เมื่อยึดถืออยู่แล้วจะให้อารมณ์มันดับได้ยัง วิธีแก้ก็คือ

ให้เรามองดูอารมณ์ที่มากระทบนั้นตรงๆ อย่ายากดับมัน และอย่ากำหนดหมายว่าไม่อยากให้มันเกิด เดี๋ยวมันก็จะดับเอง

หรือให้กระทำจิตตามคำที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ผู้เพ่งโทษคนอื่น อาสวะ(ความเดือดร้อน)ย่อมเกิดขึ้นได้

บ่อยๆ เพราะฉะนั้นเราจักต้องไม่เพ่งโทษต่อใครๆ อาสวะ(ความเดือดร้อน)ก็จักไม่เกิด"
กลุ่มดอยเวียงเกี๋ยง
สมาชิกทั่วไป
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 25 เม.ย. 2010 6:56 am

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ ปัญหาธรรมะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน

cron